วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555

อินเดีย.(India) หรือชื่อทางการว่า สาธารณรัฐอินเดีย (Republic of India)...

 ประเทศที่หลายๆคนในทวีปเอเชียโดยเฉพาะพุทธศาสนิกชนใฝ่ฝันที่จะเดินทางไปคือ ประเทศอินเดีย  ประเทศอินเดีย (India) หรือชื่อทางการว่า สาธารณรัฐอินเดีย (Republic of India) ตั้งอยู่ในทวีปเอเชียใต้ เป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของอนุทวีปอินเดีย มีประชากรมากเป็น อันดับที่สองของโลก และเป็นประเทศประชาธิปไตยที่มีประชากรมากที่สุดในโลก โดยมีกรุงนิวเดลี (New Delhi) เป็นเมืองหลวงของประเทศอินเดีย
     


แผนที่ประเทศอินเดียอินเดียเป็นประเทศที่เก่าแก่ยาวนาน ดังนั้น สภาพสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองในปัจจุบัน จึงเป็นการผสมผสานระหว่างของเก่าและใหม่

     อินเดียเป็นประเทศที่ได้รับอิทธิพลจากศาสนาฮินดู พุทธ และมุสลิม หลังจากได้รับเอกราชในปี ค.ศ. 1947 อินเดียได้ปกครองในระบอบประชาธิปไตยภายใต้โครงสร้างสาธารณรัฐ ปัจจุบันอินเดียมี 28 รัฐ และดินแดนกึ่งรัฐ 7 แห่ง ภาษาฮินดี และภาษาอังกฤษใช้กันแพร่หลายทั่วไปในอินเดีย

     ปัจจุบันอินเดียมีประชากรกว่าพันล้านคน โดยอาศัยในกรุงนิวเดลีประมาณกว่า 10 ล้านคน

     วิถีชีวิตคนอินเดีย

     ประชากรอินเดียนับถือศาสนาฮินดู ร้อยละ 82.41 อิสลามร้อยละ 11.67 ที่เหลือนับถือศาสนาอื่น ทั้งนี้เป็นการนับถือศาสนาพุทธร้อยละ 0.77

     วิถีชีวิตของคนส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลความเชื่อความศรัทธาจากศาสนาฮินดูเป็น ส่วนใหญ่ และประชากรที่มิได้นับถือศาสนาฮินดู ก็มีวิถีชีวิตภายใต้ศรัทธาของตนอย่างเคร่งครัด คนอินเดียค่อนข้างคบหาคนต่างชาติด้วยความระมัดระวังและมีความเป็นชาตินิยม สูง ปัจจุบันอินเดียมีประชากรมาก คนอินเดียจึงเป็นคนที่มีความพยายามสูง มีความอดทน ฉลาดในการต่อรองช่ำชองในธุรกิจการค้าขาย

     การติดต่อราชการกับอินเดีย

     สถานที่ราชการโดยทั่วไปเปิดทำการตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ เริ่ม 10.00 จนถึง 17.00 น. เวลาพักอาหารกลางวัน ระหว่าง 13.00 - 14.00 น.

     1. การติดต่อราชการกับอินเดีย ผู้ติดต่อต้องเผื่อเวลาไว้ให้มาก และต้องเตรียมเอกสารและสำเนาให้พร้อม
     2. อินเดียยังมีวันหยุดราชการเนื่องในวันสำคัญทางศาสนามาก
     3. ข้าราชการอินเดียให้ความสำคัญอำนาจหน้าที่ของตนเองสูง และมักมีอำนาจในการใช้ดุลยพินิจอย่างกว้างขวาง การติดต่อราชการอินเดียต้องติดตามเรื่องทุกระยะและผู้ติดต่อต้องรับผิดชอบ เรื่องของตนเอง หากล่าช้าผิดปกติต้องรีบติดต่อขอพบเจ้าหน้าที่เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วง ที
     4. ควรหลีกเลี่ยงการติดต่อกับบุคคลที่ไม่มีอำนาจหน้าที่ แต่อาสาช่วยเหลือเพราะอาจจะถูกหลอกได้ง่าย

     หน่วยงานที่ควรทราบ ผู้ที่เดินทางไปอินเดีย โดยเฉพาะกรุงนิวเดลี ควรจะทราบที่ตั้งของหน่วยงานที่ควบคุมดูแลคนต่างชาติเพราะต้องไปติดต่อ รายงานตัว ขอใบอนุญาตมีถิ่นที่อยู่ขอต่ออายุการตรวจลงตรา ฯลฯ

     สำนักงานทะเบียนคนต่างด้าว (Foreigner's Regional Registration Office (FRRO)) HANS BHAVAN, TILAKMARG (I.T.O.) NEW DELHI เวลาทำการ 09.30 - 16.00 น.

     กระทรวงมหาดไทย แผนกคนต่างด้าว (Foreigners Division, Ministry of Home Affairs) LOK NAYAK BHAVAN, KHAN MARKER, NEW DELHI เวลาทำการ 09.30 - 12.00 น.

     อากาศ อินเดียมี 3 ฤดูกาล
     1. ฤดูร้อน เมษายน - มิถุนายน อุณหภูมิสูงสุด ประมาณ 45 องศาเซลเซียส บริเวณกรุงนิวเดลี และเมืองใกล้เคียงจะมีฝุ่น จากทะเลทราย ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบหายใจ
     2. ฤดูมรสุม กรกฎาคม - ตุลาคม อุณหภูมิเฉลี่ย 33 องศาเซลเซียส
     3. ฤดูหนาว พฤศจิกายน - มีนาคม อุณหภูมิ 21 -30 องศาเซลเซียส โดยอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 7 องศาเซลเซียส

     ข้อควรระวัง
     1. ควรบริโภคอาหารและน้ำที่สะอาดเท่านั้น ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ โรคที่ควรระวัง คือ โรคท้องเสีย มาลาเรีย โรค Hepatitis A, B, C, D, (ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อทางอาหาร และน้ำดื่ม การถ่ายโลหิต การมีเพศสัมพันธ์ ฯลฯ) โรคไข้เลือดออก โรค HIV/DIDS (เอดส์) กามโรคชนิดต่าง ๆ

     2. ยาที่ควรนำติดตัว ได้แก่ ยาแก้ไข้ แก้ปวด ยาแก้ท้องเสีย ยาป้องกันไข้มาลาเรีย ยาแก้แพ้ ทาผิวหนัง ยาแก้พิษแมลงกัดต่อย ยารักษาโรคเฉพาะบุคคล ฯลฯ ซึ่งการนำยาติดตัวควรมีใบสั่งยาของแพทย์กำกับไว้ด้วย สำหรับยาสามัญประจำบ้านมีจำหน่ายทั่วไป

     การเข้าเมือง
     การตรวจลงตรา - ผู้ถือหนังสือเดินทางไทยประเภทธรรมดาต้องขอรับการตรวจลงตราจากสถานเอกอัคร ราชทูตอินเดีย หรือสถานกงสุลใหญ่อินเดียประจำประเทศไทยสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและ ราชการ ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา หากพำนักอยู่ในประเทศอินเดียไม่เกิน 90 วัน

     เงินตราต่างประเทศ เครื่องประดับ อุปกรณ์ไฟฟ้า

     1.สามารถนำเงินตราต่างประเทศเข้าประเทศได้ครั้งละไม่เกิน 10,000 เหรียญสหรัฐ แต่จะต้องแสดงรายการต่อเจ้าหน้าที่ก่อนนำเข้า

     2.ห้ามการนำเข้าและส่งออกเงินรูปีอินเดีย

     3.เครื่องประดับประเภททองรูปพรรณ จะนำเข้าได้ไม่เกิน 5 กิโลกรัม และต้องแสดงรายการต่อเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์ไฟฟ้า กล้องถ่ายรูป กล้องวีดีทัศน์ จะต้องแสดงรายการต่อเจ้าหน้าที่

     การแลกเปลี่ยน 1. ชาวต่างประเทศอาจเปิดบัญชีกับธนาคารต่างประเทศได้ และผู้เปิดบัญชีควรถือเงินสด หรือ Traveller's Cheque

     2. การเบิกถอนเงินตราต่างประเทศในรูปเงินสดจากบัญชีธนาคารจะจำกัดไว้ไม่เกิน 500 เหรียญสหรัฐต่อเดือนต่อคน หากเกินครั้งละ 500 เหรียญสหรัฐต้องแสดงหลักฐานการอนุญาตให้นำเงินจำนวนนั้นเข้าประเทศ

     3. การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นเงินรูปีอินเดียโดยวิธีการอื่น เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

     สกุลเงิน รูปีอินเดีย (INR)หน่วยย่อยของรูปีเรียก เปซ่า (Paise)อัตราแลกเปลี่ยนโดยประมาณ 1 ดอลลาร์สหรัฐเท่ากับ 43.5 รูปี และ 1 รูปี เท่ากับ 0.9 บาท (2548) บัตรเครดิตที่สามารถใช้ได้ทั่วไปคือบัตร Visa American Express และ Mastercard


ทำความรู้จักประเทศอย่างเป็นทางการแล้ว ทีนี้มาทำความรู้จักใ้นเชิงท่องเที่ยวกับ้างนะคะ


ทัวร์อินเดีย 


นมัสการ / นมัสเต อินเดีย ดินแดนสาวสาหรี่ กรุยกราย ชา มาซ่าร่าที อันหอมกรุ่น หรือว่าชิมซาโมซ่า ร้อนๆๆ  พร้อมจารึกแสวงบุญ ไปในสถานที่ทั้งสี่ ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา และปรินิพพาน 
ตลอดการเดินทางประเทศอินเดีย มีสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำดังนี้ค่ะ
- เส้นทางโรแมนติค เดลลี อัครา ชัยปุระ ต้นกำเนิดอนุสรณ์สถานแห่งความรัก ณ ทัชมาฮาล
- เส้นทางถ้ำออโรร่า อชันต้า มุมไบ ออรังคบาต งานพุทธศิลป์และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับ 8 ของโลก
-ตามเสน่ห์มนต์เพลงทะเลทรายแห่งราชาสถานหรือีกชื่อว่า สถานที่ของพระราชา
- ต้นกำเนิดวิหารกามสูตร ณ ขชูรโห
- แคชเมียร์ ศรีนาคา กุลมาร์ค โซนามาร์ค พาฮาลแกม สัมผัสหิมะ กับไอรักหวาน
-เส่นทางจารึกแสวงบุญ ณ สี่ังเวชนียสถาน


อินเดีย มนต์ขลังที่แฝงไว้ด้วยเสน่ห์

"อินเดีย" ดินแดนแห่งเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ทางด้านศาสนาของโลก ด้วยเหตุที่มีหลายๆ ศาสนาเกิดและเติบโตที่นี่ ไม่ว่าเป็น พราหมณ์ ฮินดู ซิกซ์ หรือแม้แต่ศาสนาพุทธที่ชาวไทยหลายๆ คนนับถือกัน ทำให้ "อินเดีย" เต็มไปด้วยเรื่องราวอันมีเสน่ห์มนต์ขลัง อีกทั้งวัฒนธรรม ประเพณี ที่หลากหลาย เป็นเอกลักษณ์ ซ่อนเร้นให้น่าค้นหามากมาย ที่นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนต่างสัมผัสได้ถึงหลากหลายที่สุดในดินแดนแห่ง นี้ เช่น หนึ่งในที่สุดนั้น คือ อนุสรณ์สถาน หรือหลุมฝังศพที่สวยที่สุด อย่างทัชมาฮาลนั่นเอง ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ "อินเดีย" จะเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักเดินทางจากทั่วโลกสถาน ที่น่าสนใจและโดดเด่นใน"อินเดีย"ที่เป็นที่รู้จักกระจายมีอยู่มากมายตาม เมืองต่างๆ อาทิ เมือง อัครา (Agra), Bangalore, เจนไน (Chennai), ดาจิลลิง (Darjeeling), เดลี (Delhi) , กัว (Goa) , ไฮเดอราบาด (Hyderabad) , เกรละ(Kerala) , โคซิ (Kochi) , Manali, มุมไบ (Mumbai), อาห์มาดาบัด (Ahmedabad), Naรnital, ปัฏนาPune, ซิมลา (Simla) เป็นต้น



409650_416793898362820_1827870453_n.jpg (960ื718)
ป้อมแดงอัครา Agra Fort

ซึ่งแต่ละเมืองก็ล้วนเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และมีเอกลักษณ์เรื่องราวโดดเด่นแตกต่างกันออก
และ สิ่งที่พิเศษแตกต่างของ "อินเดีย" ก็คือ "อินเดีย" เป็นประเทศที่มีความหลากหลายหลายชนชั้นทั้งด้านวัฒนธรรมและศาสนามากมายแห่ง หนึ่งของโลก อีกทั้งประชาชนของที่นี้ดำรงอยู่ภายใต้กรอบความเชื่อและศรัทธา อย่างเคร่งขัด ทำให้ที่อินเดียนั้น มีศาสนาสถานอันศักดิ์สิทธิ์มากมายที่สามารถเดินทางมาสักการะ และดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี
ส่วนสถานที่โดด เด่นและเป็นที่รู้จัก อย่างเช่น ถ้าในโซนทางตอนเหนือของอินเดียก็จะมี  

ซิมลา (shimla), จามมู (jammu) ดาลัก และ ศรีนาคา ที่ แคชเมียร์ (Kashmir) ซึ่งได้สมญาณามว่าเป็นสวรรค์บนดิน Deharadun, Haridawar, rishikesh 



Saif Ul Malook Lake , Kashmir
และ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแล้วได้รับความนิยมที่สุดก็คงหนีไม่พ้น ทัชมาฮาล อนุสรณ์สถานแห่งความรัก สุสานฝังศพของ มุมทัชมาฮาล ราชินีผู้เป็นที่รักยิ่งของพระเจ้าชาห์เยฮัน ที่ต้องสิ้นพระชนม์เพราะคลอดโอรสองค์ที่ 15 เป็นสุสานหินอ่อนขนาดใหญ่ที่สวยงามสมบูรณ์ริมแม่น้ำยมนา เมืองอัครา โดยสถาปนิก อุสตาด ไอสา(Ustad Isa)  ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่นักท่องเที่ยวไม่ว่าใครได้มาเยือนอินเดีย ไม่ควรพลาดที่จะมาชมทัชมาฮาลแห่งนี้

อย่างไรถ้าคนไทยจะไปเที่ยวที่ ทัชมาฮาลหรือหลายๆ สถานที่ อย่าลืมใช้สิทธิ์ ความเป็นคนไทยในการเสียราคาค่าธรรมเนียมเข้าชมแบบไทยๆ ด้วยสิทธิ์ BIMSTEC นโยบายการร่วมมือกันเพื่อการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศสมาชิก ซึ่งจะทำให้คนไทยเข้าชมแหล่งท่องเที่ยวในอินเดียได้ประหยัดได้กว่านักท่อง เที่ยวชาติอื่นๆ ด้วยอัตราค่าธรรมเนียมเท่าคนท้องถิ่น



523965_416804371695106_2139755182_n.jpg (960ื720)
ทัชมาฮาล Taj Mahal
ศาสน สถานที่สำคัญได้แก่ พุทธคยา (วัดมหาโพธิ์)Bodh Gaya , ถ้ำเอลโลราEldora, ถ้ำอจันตา Ajanta , Goa , Golden Temple , อนุสรณ์สถานแห่งฮามปิ Hampi , Khajuraho, Konark , Lake Palace , Meenakshi Temple.


394598_416787971696746_1139827860_n.jpg (960ื720)
พุทธคยา Bodh Gaya , วัดศรีมหาโพธิ์ ที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า

409646_416847581690785_1143347705_n.jpg (960×642)
จาล มาฮาล The Jal Mahal or พระราชวังแห่งสายน้ำ Water Palace
ฮา วา มาฮาล Hawa Mahal หรือ Palace of Winds ในรัฐ Rajasthan state city เมืองชัยปุระ Jaipur หรือที่ชาวเมืองชัยปุระ เรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า เมืองชมพู Pink city ก็ถือเป็นอนุสรณ์สถานที่สวยงามและ unseen อีกแห่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือน ชัยปุระ


Pink-city-Jaipur-53.jpg (600×400)

ชัยปุระ Jaipur


Hawa Mahal หรือ Palace of Winds

วัด ลักษมัณ Lakshmana Temple ในกลุ่มอนุสรณ์สถานแห่งเมืองขชุราโห Khajuraho สถานที่กำเนิดของกามมสูตร  เมืองมรดกโลกที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยงานสถาปัตยกรรมและประติมากรรมด้วยรอบ ตามแบบของศาสนาฮินดูและเชน และสถานที่แห่งนี้ยังเป็นต้นเกิดแห่งคัมภีร์กาม สูตร Kamasutra หรือ วาตสยายน กามสูตรอันโด่งดัง วาตสยะยานะ เชื่อกันว่าเป็นชื่อของนักปราชญ์ผู้เขียนคัมภีร์นี้ขึ้น ลองสักเกตได้จากภาพ รูปปั้นด้านล่างนะคะ (แต่คัมภีร์กามสูตร เป็นคนละคำกับ กาลามสูตร Kalama Sutta วิธีปฏิบัติในเรื่องที่ควรสงสัย ในคำสอนของพระพุทธเจ้านะคะ)

555644_416787348363475_37192669_n.jpg (960ื720)
Khajuraho

428931_416787545030122_1651991341_n.jpg (960×719)
Erotic Sculptures
 
นอก จาก อินเดีย จะเป็นเมืองที่มีสถานที่สำคัญน่าเที่ยวมากมายแล้ว อินเดีย ยังมีเทศกาลและประเพณีที่ทั้งมีความขลัง และความงดงาม ด้วยการตกแต่งประดับประดา เสื้อผ้าแต่งกาย และท่าร่ายรำ ที่น่าสนใจอีกด้วย อาทิเช่น

เทศกาลวันโฮลี Holi ที่จะเปลี่ยนให้เมืองทั้งเมืองเต็มไปด้วยสีสัน,

เทศกาล ทุร คาปูชา Durga Puja เทศกาลที่ชาวอินเดียเฝ้ารอคอยอย่างตื่นตาตื่นใจในการแสดงฝีมือจัดตกแต่ง ประดับประดาซุ้มบูชาพระแม่ทุรคา ด้วยเครื่องประดับท้องถิ่นต่างๆ โดยพระแม่ทุรคา เป็นสตรีผู้มีแขน 10 ข้าง ด้วยแต่ละข้างจะถืออาวุธ และวัตถุมงคล อาทิ ดาบ หอกหลาว กงจักร ลูกประคำ โล่ ลูกศร ระฆัง หอยสังข์ เป็นต้น ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นที่สุดหาบุคคลใดสามารถเปรียบได้ อีกทั้ง พระ นางยังเป็นพระมเหสีปางหนึ่ง (ทรงสิงโต)ขององค์เทพพระศิวะ ที่หลายๆ คนนับอีกทั้งพระนางยังเป็นพระมารดาของบุตร-ธิดา องค์เทพผู้โด่งดัง รวม 4 องค์ คือ พระพิฆเนศ, พระนางลักษมี, พระนางสรัสวดี และ พระกิรติ (พระกักติ) อีกด้วย ซึ่ง ชาวอินเดีย จึงมีความเชื่อกันว่า การบูชาพระแม่ทุรคา จะนำมาซึ่งความสำเร็จ อำนาจ และความแข็งแรง  ดังนั้น เมื่อถึงวันเฉลิมฉลองบูชา ชาวอินเดียจึงต่างแสดงฝีมือกันออกมาอย่างเต็มที่




ทุรคาปูชา Durga Puja : เทศกาลบูชาพระแม่ทุรคา สตรีผู้มีสิบมือ

เทศ กาลนวราตรี Navarathri : เทศกาลบูชาพระแม่ทุรคา หรือศักติ และการเต้นรำ  นว (Nava)+ ราตรี(rathri) แปลตามตัวว่า เป็นเทศกาลร่ายรำบูชาต่อเนื่องกัน 9 คืน
 




นวราตรี Navrathri, 9 Nights
 
เทศกาล ของดุชเชห์ร่า Dussehra เทศกาลหนึ่งที่เฉลิมฉลองกันทั่วอินเดีย หลังจากนวราตรีผ่านไปแล้ว 9 วัน ในวันที่ 10 แห่งเดือนอัศวิน (Ashwin)

เทศกาล ดีวาลี Diwali เทศกาลแห่งชัยชนะแสงสว่างแห่งความมืดมน สัญลักษณ์แห่งความดีชนะความชั่วร้ายทั้งปวง ซึ่งถือเป็นประเพณีที่คึกคักและสำคัญมากสำหรับชาวฮินดู ประเพณีแม้ชาวอินเดียจะตระเตรียมงานคึกครื้นกันตลอดสัปดาห์ก่อนวันงานและพอ ถึงวันงานซึ่งเป็นวันฉลองใหญ่ เพียงวันเดียวในหนึ่งปี  ชาวอินเดียจะลุกขึ้นมาจุดพุจุดประทัดกันตั้งแต่ตี 4 จนค่ำ ในเทศกาลนี้แม้จะเป็นประเพณีของชาวฮินดู แต่ชาวอินเดียที่นับอื่นศาสนาอื่นก็ออกมาร่วมเฉลิมฉลองกันอย่างสนุกสนานด้วย เช่นกัน



สำหรับ วันนี้ขอนำข้อมูลของประเทศอินเดียมาเสนอส่วน หนึ่งก่อนนะคะ  ยังมีสถานที่ี่ ที่น่าสนใจจะนำมาเป็นข้อมูลผู้อ่านอกหลายแห่ง รวมทั้งรายละเอียดโรงแรมที่สมาชิกโกลบอล ริชคลับ สามารถใช้สิทธิ์
3 คืน 4 วัน  ที่ประเทศนี้ด้วย   ค่ะผู้เขียนจะนำรายละเอียดมา่ฝากใน วัน 2วันนี้ แน่นอนค่ะ


*** ติดต่ิอผู้เขียนblog/สมัครสมาชิก Global Rich Club โทร 087-4949-220หรือmitang41@gmail.com***

written September 30,2012